หน้าหลัก / การออกแบบโครงการเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการใช้สอยในทุกๆด้าน
ในสมัยก่อน เคยมีคำกล่าวที่ว่า ‘ค่าของคน อยู่ที่ผลของงาน’ ที่เป็นดั่งข้อคิดย้ำเตือนให้ระลึกถึงความสำคัญของผลลัพธ์ที่จะฉายภาพตัวตนของคนคนนั้นในกระบวนการต่างๆ อย่างไรก็ตาม ภายใต้กระบวนการผลิตสมัยใหม่ ระบบอุตสาหกรรมโรงงานที่ลดขั้นตอนปลีกย่อยยุ่งยากที่เคยมีมา ผู้ประกอบการหลายรายก็เริ่มตระหนักถึงความสำคัญของ ‘ค่าของงาน อยู่ที่คุณภาพของคน’ ที่คอยควบคุมและมีส่วนเกี่ยวข้องเบื้องหลังอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และเล็งเห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องปรับปรุงคุณภาพของสถานประกอบการ และภายใต้แนวคิดเช่นนี้เอง ที่เป็นเหตุผลให้ คุณทวี ธรรมกุลกระจ่าง (วุฒิสถาปนิก) ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายสถาปัตยกรรม เครือบริษัท เบทาโกร จำกัด สถาปนิกผู้ออกแบบโรงงานอาหารสัตว์และโรงงานอุตสาหกรรมในเครือเบทาโกรเล็งเห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องออกแบบอาคารสถานประกอบการให้มีคุณภาพ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ทำงานภายในอาคารให้ดีขึ้นซึ่งจะส่งผลต่อคุณภาพของสินค้าต่อไป
Ampelite : ขอทราบประวัติเบทาโกรคร่าวๆ
คุณทวี : เบทาโกรครบรอบ 50 ปีไปเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2560 เริ่มต้นจากการเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจด้านผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์ มีโรงงานแห่งแรกที่อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ขยายธุรกิจสร้างฐานการผลิตด้านปศุสัตว์แห่งแรกที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา และได้ขยายฐานการผลิตมายังจังหวัดลพบุรี โรงงานอาหารสัตว์เบทาโกร ที่อำเภอพัฒนานิคม โรงงานแรกสร้างมาตั้งแต่ปี 2532 โดยผมเป็นสถาปนิกผู้ออกแบบ ปัจจุบันในฐานการผลิตที่อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรีนี้ มีโรงงานอาหาร-สัตว์ทั้งสิ้น 4 โรงงาน เพื่อสนับสนุนงานผลิตอาหารไก่อาหารสุกร และอาหารสัตว์น้ำ เรามีกระบวนการผลิตตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง เราผลิตอาหารสัตว์เพื่อไปฟาร์มปศุสัตว์ และนำมาเข้าโรงงานแปรรูป ซึ่งเรามีทั้งโรงงานชำแหละไก่ โรงงานชำแหละสุกร โรงงานแปรรูปอาหารปรุงสุกรวมอยู่ด้วยกันเป็นสวอุตสาหกรรมอาหาร (FOOD COMPLEX)
Ampelite : คอนเซ็ปต์ของการออกแบบโรงงานเบทาโกรคืออะไร
คุณทวี : ออกแบบตามความต้องการว่าต้องการใช้ผลิตอะไร กระบวนการผลิตและกำลังการผลิตเป็นอย่างไร ต้องการใช้พื้นที่เท่าไหร่ในการจัดเก็บวัตถุดิบและสินค้าสำเร็จ รวมถึงระบบเครื่องจักรทั้งหมด ฯลฯ ความต้องการทั้งหมดจะถูกแปลงเป็นโจทย์สำหรับการออกแบบโครงการเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการใช้สอยในทุกๆ ด้านและคำนึงถึงการออกแบบที่ประหยัดพลังงาน
Ampelite : หลักในการเลือกใช้วัสดุ
คุณทวี : ผมเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสมกับยุคสมัยอย่างเช่นหลังคา สมัยก่อนที่โรงงานพระประแดงจะใช้หลังคากระเบื้องลอนคู่ ส่วนปัจจุบันเราเลือกใช้หลังคา Metal Sheet ซึ่งมีอายุใช้งานยาวนานขึ้นและเพิ่ม Skylight (แผ่นโปร่งแสง) เข้าไปด้วยเพื่อให้ได้แสงธรรมชาติเข้าสู่พื้นที่ภายในอาคาร ลดการใช้พลังงานไฟฟ้า
Ampelite : ขอถามการเริ่มต้นใช้งานหลังคาโปร่งแสง
คุณทวี : เป็นเรื่องความต้องการเช่นกัน สมัยที่ผมออกแบบโรงงานแห่งแรกเมื่อปี 2532 สมัยนั้นยังไม่รู้จักหลังคาโปร่งแสง ภายในอาคารจึงไม่ได้นำแสงธรรมชาติเข้ามาทางหลังคา ต่อมาเมื่อได้ออกแบบอาคารโรงงานแปรรูปไก่ ด้วยความอ่อนประสบการณ์ เราคิดว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้หลังคาโปร่งแสงเพื่อให้ได้รับแสงธรรมชาติ เนื่องจากพื้นที่ใช้สอยภายในทั้งหมดมีฝ้าเพดาน แต่จริงๆ แล้ว เหนือฝ้าเพดานของโรงงานจะมีงานระบบต่างๆ ทั้งระบบทำความเย็น ระบบไฟฟ้า ระบบน้ำ และอื่นๆ อีกมาก ที่เดินอยู่ใต้หลังคาทั้งนั้น ซึ่งต้องมีการซ่อมบำรุงอยู่เป็นประจำ เมื่อไม่มีแสงสว่างจากธรรมชาติ จึงจำเป็นต้องติดดวงโคมไฟฟ้าเพื่อให้สว่างเพียงพอต่อการตรวจและบำรุงรักษา ซึ่งเป็นปัญหา เราก็ปรับเปลี่ยนให้เพิ่มหลังคาโปร่งแสง ซึ่งได้ผลออกมาดีมาก ให้ความสว่างได้ทั่วถึงและประหยัดพลังงาน
โรงงานต่อๆ มา ผมต้องใส่หลังคาโปร่งแสงประมาณ 10% ของพื้นที่หลังคา แม้ว่าภายในอาคารส่วนผลิตจะมีฝ้าเพดานปิดก็ตาม แต่ว่าแสงธรรมชาติที่เข้าสู่พื้นที่ใต้หลังคาจะให้ความสว่างในการทำงานของงานระบบที่มีความสำคัญไม่แพ้พื้นที่ในส่วนผลิต
สำหรับในส่วนของโรงงานเก่าที่ยังไม่มีหลังคาโปร่งแสง อาคารมีความสูงมาก ภายในอาคารจะมืดทึมทำให้เราต้องใช้ไฟฟ้ามาก จนเมื่อได้มีการรู้จักวัสดุใหม่ๆ อย่างหลังคาโปร่งแสง เพื่อให้ตอบสนองในเรื่องสวัสดิภาพของคนทำงาน และเรื่องของการประหยัดการใช้พลังงาน ปัจจุบันนี้เริ่มเปลี่ยนหลังคาที่โรงงานพระประแดง สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งคือสามารถลดความร้อนที่ถ่ายเทลงมาได้ดีด้วย ตรงนี้ที่ผมรู้สึกชื่นชอบ เท่าที่คำนวณการตรวจจับการใช้ไฟฟ้าระบุว่าสามารถประหยัดไฟได้มากถึงล้านกว่าบาทจากคำแนะนำของ Ampelite ผู้ผลิตหลังคาโปร่งแสงไฟเบอร์กลาส ที่ให้เราลองเปลี่ยนแค่ 10% ของพื้นที่ทั้งหมด คุณจะสังเกตได้ว่าทุกๆ หน้ากว้าง 6 เมตร เราจะแทรกด้วยหลังคาโปร่งแสง 1 แผ่นซึ่งส่วนนี้ช่วยให้เราไม่ต้องเปิดไฟในเวลากลางวันเลย ทำให้เราประหยัดค่าไฟฟ้าไปได้มาก"แสงที่ผ่านเข้ามาก็ไม่ได้นำความร้อนเข้ามามากอย่างที่เราคิด ทำให้ภายในอาคารไม่อึดอัด มีทัศนวิสัยที่ดีขึ้น แสงสว่างทำให้พื้นที่ภายในเพิ่มความปลอดภัยให้แก่พนักงานที่ปฎิบัติงานมากขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการเลือกใช้งานของผม ผมอาศัยข้อมูลเชิงเทคนิคที่น่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์เป็นตัวอ้างอิง
Ampelite : จากการใช้งานจริง ผลของการใช้ไฟฟ้าส่องสว่างเป็นอย่างไร
คุณทวี : คือเมื่อเทียบกันระหว่าง WonderCOOL IRกับ SupraGlas ที่เราเคยใช้ ผมว่าไม่แตกต่างในเรื่องของการประหยัดไฟฟ้า เพราะแสงสว่างที่ผ่านมายังคงใกล้เคียงกัน แต่แตกต่างกันชัดเจนที่สุดคือเรื่อง'ค่าความร้อน' จากเดิมของรุ่น SupraGlas ค่าความสว่างมันอาจจะได้มากกว่าซึ่งไม่เป็นนัย สิ่งสำคัญคือความร้อนที่จะผ่านเข้ามาภายในจะร้อนกว่า WonderCOOL IR ดังนั้น เรายอมจ่ายแพงขึ้นเพื่อให้พนักงานของเราได้ทำงานในสภาวะที่สบายขึ้น
Ampelite : ความคาดหวังสำหรับอาคารที่ใช้ WonderCOOL IR
คุณทวี : ผมให้ความสำคัญมากกับเรื่องความร้อนที่จะเข้าสู่ภายในอาคาร เพราะสำหรับโรงงานและคลังสินค้าที่ไม่มีระบบปรับอากาศแล้ว ตรงนี้ถือเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด ผมต้องการให้แสงธรรมชาติที่ส่องผ่านหลังคาโปร่งแสงที่เลือกใช้นี้ นำพาความร้อนเข้ามาสู่ภายในอาคารให้น้อยที่สุด
Ampelite : อยากให้ฝากแง่คิดในเรื่องของการออกแบบเพื่อก้าวสู่การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
คุณทวี : นอกเหนือจากการเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่มีคุณสมบัติในด้านการประหยัดพลังงานแล้วการออกแบบวางผังตัวอาคาร การป้องกันให้แสงแดดกระทบกับผิวผนังอาคารให้น้อยที่สุด สภาวะแวดล้อมทุกอย่างมีความสำคัญต้องใส่ใจในรายละเอียดอย่างมาก เพราะบ้านเรามีทั้งแดด ฝน และความชื้นก็เป็นตัวแปรสำคัญของการออกแบบทั้งสิ้น ดังนั้น อยากให้ลองศึกษาข้อมูลทุกอย่างให้ดีก่อนการออกแบบเพื่อจะได้เข้าถึงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมได้ดียิ่งขึ้น ทางเบทาโกรเองก็ได้ตั้งหนึ่งหน่วยงานขึ้นมา เป็นทีมที่จะศึกษาเรื่องอนุรักษ์พลังงานต่างๆ โดยเฉพาะ ตอนนี้กำลังศึกษาพลังงานอื่นๆ มาทดแทนการใช้พลังงานจากน้ำมันเชื้อเพลิง ทั้งหมดเพื่อทิศทางของการก้าวเข้าสู่ความเป็น Green Technology มากยิ่งขึ้น
สินค้าแนะนำ |
---|
หลังคากันสาดแอมเพอแรม |
Ampelite World Company Limited all rights reserved.Sitemap