หลังคา โรงงาน เลือกวัสดุแบบไหนให้ระบายความร้อน และใช้งานได้นาน

จำนวนผู้เข้าชม : 387

หลังคา โรงงาน เลือกวัสดุแบบไหนให้ระบายความร้อน และใช้งานได้นาน

หลังคา โรงงาน เป็นส่วนประกอบที่มีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากหลังคาโรงงานที่ดีควรมีคุณสมบัติในการช่วยป้องกันโรงงานจากสภาพอากาศ และภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นได้ ดังนั้นการเลือกวัสดุมุง หลังคาโปร่งแสง โรงงาน จึงควรเลือกวัสดุที่มีความแข็งแรง และทนทานต่อการใช้งาน ที่สำคัญต้องเป็นวัสดุป้องกันความร้อน สะท้อนรังสี UV และระบายความร้อนภายในโรงงานได้ดี เพื่อให้ภายในโรงงานมีอากาศที่ปลอดโปร่ง และไม่ร้อนจนเกินไป 

นอกจากนี้ยังช่วยให้เจ้าหน้าที่ เครื่องจักร และอุปกรณ์ต่าง ๆ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน วันนี้แอมเพิลไลท์จะพาทุกคนมาเลือกวัสดุมุง หลังคา ที่มีคุณสมบัติในการช่วยป้องกันความร้อนให้เหมาะกับการติดตั้งอาคารโรงงานกัน ถ้าพร้อมแล้วมาดูกันเลย  

หลังคา โรงงานที่ดี ควรมีคุณสมบัติอย่างไร 

ก่อนจะพาไปเลือกวัสดุมุงหลังคาโรงงาน เรามาดูกันก่อนว่าหลังคาโรงงานที่ดีควรมีคุณสมบัติอย่างไร โดยคุณสมบัติหลัก ๆ ของหลังคาโรงงานจะมีด้วยกันทั้งหมด 3 คุณสมบัติ ได้แก่ ช่วยป้องกันความร้อน มีความแข็งแรงทนทาน และช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ดี ซึ่งทั้ง 3 คุณสมบัตินี้จะมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง มาดูกัน 

• ป้องกันความร้อนได้ดี 

หลังคา โรงงานที่ดีต้องมีคุณสมบัติป้องกันความร้อน สะท้อนรังสี UV และระบายความร้อนภายในอาคารได้เป็นอย่างดี ด้วยความที่โรงงานเป็นสถานปฏิบัติงานที่เต็มไปด้วยเจ้าหน้าที่ บุคลากร เครื่องจักร และอุปกรณ์มากมายที่ต้องใช้พลังงานจำนวนมาก ทำให้ภายในโรงงานเกิดความร้อน และอากาศไม่ถ่ายเทเท่าที่ควร ส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานของเจ้าหน้าที่ และเครื่องจักรลดลง 

• แข็งแรงทนทานต่อการใช้งาน 

อย่างที่กล่าวไปว่าโรงงานเป็นสถานปฏิบัติงานที่มีเจ้าหน้าที่ และเครื่องจักรที่ต้องการการปกป้องอย่างเข้มงวด ดังนั้นการติดตั้งหลังคาควรใช้วัสดุที่มีคุณสมบัติในเรื่องของความแข็งแรง และทนทานต่อการใช้งาน เพราะหลังคาเปรียบเสมือนเกราะป้องกันภัย ที่จะคอยปกป้องเจ้าหน้าที่ และเครื่องจักร จากสภาพอากาศที่แปรปรวน อีกทั้งยังป้องกันภัยอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้โดยไม่ทันได้ตั้งตัว อาทิ พายุฝน ลูกเห็บตก หรือกิ่งไม้ร่วงหล่นลงจนอาจเกิดอันตรายได้ 

• ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ 

ด้วยความที่โรงงานเป็นสถานประกอบการที่ต้องใช้พลังงานค่อนข้างสูง ทั้งพลังงานเครื่องจักร และพลังงานจากเครื่องปรับอากาศ ที่ทุกเดือนผู้ประกอบการต่างก็ต้องเสียเงินจ่ายค่าไฟ ทำให้ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง แต่จะดีกว่าไหม? ถ้าเลือกหลังคาที่มีคุณสมบัติในการช่วยกระจายแสง แต่ยังป้องกันความร้อนได้ดี ก็จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย และค่าไฟได้ค่อนข้างมากเลยทีเดียว 

เลือกวัสดุมุง หลังคา โรงงานแบบไหนให้ระบายความร้อน

ปัจจุบันมีวัสดุสำหรับมุงหลังคาโรงงานหลายประเภทด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นไฟเบอร์กลาส เมทัลชีท ไวนิล หรือโพลีคาร์บอเนต ที่มีคุณสมบัติแตกต่างกันออกไป อย่าง หลังคาไฟเบอร์กลาสจะมีคุณสมบัติในการป้องกันความร้อน สะท้อนรังสี UV  และกระจายแสงจากธรรมชาติได้ทั่วถึง

โดยวัสดุทั้ง 4 ชนิดนี้จะมีความแตกต่างกันออกไป แต่ถ้าให้แนะนำวัสดุสำหรับมุงหลังคาโรงงานที่ช่วยป้องกันความร้อน และมีอายุการใช้งานได้นาน ขอแนะนำให้เลือกหลังคาไฟเบอร์กลาส หลังคาโปร่งแสงที่ผลิตมาจากเรซินผสมเส้นใยไฟเบอร์กลาส ทำให้วัสดุมีความแข็งแรง ทนทานต่อสภาพอากาศ และทนทานต่อการกัดกร่อนของสารเคมีได้ดีอีกด้วย รวมไปถึงช่วยป้องกันความร้อน และสะท้อนรังสี UV ได้มากถึง 99% แถมยังเป็นหลังคาโปร่งแสงที่ยอมให้แสงธรรมชาติส่องผ่านลงมาภายในโรงงาน โดยไม่กักเก็บความร้อนไว้ที่วัสดุ ส่งผลให้ภายในโรงงานมีแสงสว่างที่พอดี และไม่ร้อนอบอ้าว

นอกจากนี้หลังคาไฟเบอร์กลาส ยังช่วยประหยัดพลังงานได้ดี เพราะมีคุณสมบัติที่ช่วยลดความร้อนไม่ให้สะสมบนหลังคา และไม่กักเก็บความร้อน ทำให้สามารถลดการใช้เครื่องปรับอากาศ และช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเปิดเครื่องปรับอากาศ และค่าไฟฟ้า รวมไปถึงช่วยลดค่าใช้จ่ายการบำรุงรักษาในระยะยาว

เพราะหลังคาไฟเบอร์กลาสมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน และไม่จำเป็นต้องดูแล และบำรุงรักษาเป็นประจำเหมือนวัสดุทั่วไป เพราะฉะนั้นการเลือกวัสดุมุง หลังคา โรงงาน จึงเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการควรให้ความสำคัญ เพราะหากเลือกวัสดุที่ไม่มีคุณภาพ หรือไม่สามารถป้องกันความร้อนได้ ก็อาจส่งผลกระทบต่อการทำงานได้

สำหรับใครที่สนใจติดตั้งหลังคาไฟเบอร์กลาส ก็อย่าลืมให้ แอมเพิลไลท์ เป็นผู้ดูแลหลังคาให้กับคุณ เพราะเราเป็นผู้ผลิตหลังคาไฟเบอร์กลาสคุณภาพที่ได้รับการรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) และการมาตรฐานจาก SAI Global ​​มั่นใจได้ว่าหลังคาไฟเบอร์กลาสจาก แอมเพิลไลท์ เป็นวัสดุมุงหลังคาที่มีคุณภาพ และตอบโจทย์ทุกการใช้งานอย่างแน่นอน หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อเราได้ที่ แผนกประสานงานฝ่ายขาย 082-782-6774 หรือติดต่อสำนักงานใหญ่ สาขากิ่งแก้ว 02-312-4300, 02-103-4490