หน้าหลัก / หลากหลายความประทับใจ / THE PASEO THE FOUNDATION OF CONVERGENCE AND PLEASANTRY
ถ้าหากจะตั้งคำถามถึงปัจจัยในความสำเร็จของภาคธุรกิจหนึ่งๆ นั้น เราคงไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า การบริการที่ครบถ้วน และบรรยากาศที่ถึงพร้อม คือสิ่งที่เป็นหัวใจหลักสำคัญในทุกยุค ทุกสมัย และทุกกิจการใดๆ กระน้นแล้ว ด้วยควาแตกต่างหลากหลายของผู้ใช้บริการ ทำให้การบูรณาการ (Convergence) ของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกันถูกนำมาพิจารณาเพื่อปรับใช้ ในมิติที่ลึกลงไปมากกว่าจะตอบสนองแค่ธุรกิจที่เป็นหัวใจหลักแต่เพื่อตอบรับในทุกความต้องการได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์แบบ
เช่นเดียวกับที่คุณชาญ เลิศประเสริฐภากร ประธานกรมการ บริษัท ทีบีเอ็น พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด และ บริษัท โตโยต้า ทีบีเอ็น จำกัด ได้มองภาพของอนาคตอันยาวไกล ผสานรวามอสองธุรกิจเช่นโชว์รูมโตโยต้า และ The Paseo Mall ห้าง Community Mall จุดนัดพบแห่งใหม่ในบรรยากาศสบายประหนึ่งเดินในสวน ที่แม้แตกต่างในแนวทาง แต่ก็สอดประสานกันได้อย่างเข้าคู่ลงตัว และเราก็ได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณชาญในหัวข้อต่างๆ รวมถึงแนวคิด แรงบัลบาลใจวัสัยทัศน์ และ “ทิศทางการออกแบบ” ในด้านต่างๆ ที่จะช่วยให้เห็นภาพของสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นภายใต้แนวทางการบริการของบริษัท และของการผสานรวมธุรกิจได้มากยิ่งขึ้น
เริ่มต้นเมื่อประมาณ 7-8 ปีก่อน สมัยที่สนามบินสุวรรณภูมิเริ่มต้นสร้าง ตอนนั้นมีนโยบายจากทางรัฐบาลว่าจะแยกพื้นที่นี้ออกเป็น “เมืองสุวรรณภูมิ” เพื่อเป็นศูนย์การศึกษา ศูนย์การเงิน ศูนย์เทคโนโลยี และโปรเจ็กต์อื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งประจวบกับการที่ผมอยากจะขยายโชว์รูมโตโยต้า ทั้งหมด คือเหตุผลที่ผมตัดสินใจลงหลักปักฐาน ณ ที่แห่งนี้ รวามถึงจุดเริ่มต้นของโครงการ The Paseo ที่สร้างขึ้นมาพร้อมกันซึ่งถือว่าค่อนข้างยากในการพูดคุยและระดมทุน เพราะเป็นการผสมรวมระหว่างโชว์รูมกับ Community Mall เพราะเป็นอะไรที่ประหลาดมากๆ แต่ผมก็มุ่งมั่นและพิสูยน์ให้เห็นว่ามันจะประสบความสำเร็จ
ผมมองเรื่องของทำเลที่ตั้งของโชว์รูมโตโยต้าเป็นหลัก กล่างคือ เวลาคนที่เอารถมาเข้าศูนย์ฯก็อาจจะมีธุระอื่นๆ ที่ต้องทำในระหว่างนั้น ซึ่งถ้าต้องเดินทางไป-มาย่อมเสียเวลา จึงเป็นแรงบัลดาลใจที่ทำให้เกิด The Paseo ศูนย์การค้าแบบเปิดหรือ Community Mall เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้บริการและให้เป็นจุดศูนย์กลางของความร่มรื่น เป็นจุดนัดพบแห่งใหม่ ไม่ว่าจะธนาคาร ร้านอาหาร สถานศึกษา หรือสปา ช่วยให้เกิดความคล่องตัวในระหว่างการรอรับบริการจากโชว์รูม
ถ้าพูดถึงปัญหาด้านสภาพภูมิอากาศโดยทั่วไปก็ต้องทำความเข้าใจว่าในตอนออกแบบ สถาปนิกต้องการให้ The Paseo เป็น Community Mall แบบเปิดจริงๆ และไม่มีหลังคาเลย แต่พอเร่มใช้งานจริงมันมีปัญหามาก เวลาฝนตกก็เฉอะแฉะ แดดส่องลงมาก็ร้อนเปรี้ยงวุ่นวายไปหมดเราจึงหันมาพิจารณาว่าทำอย่างไรให้ลูกค้าเข้ามาใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย จึงทำการขยายจุดเชื่อมโยงสองพื้นที่ให้ต่อถึงกัน และออกแบบโดยนำ Skylight หลังคาโปร่งแสง มาใช้งาน
มีเหตุผลสอประการคือ หนึ่ง ถ้าเป็นหลังคา Metal Sheet น่าอาจจะทำให้อุณหภูมิโดยรวมสูงกว่าหลังคาแบบ Skylight หลังคาโปร่งแสง และสอง เสียงที่เกิดขึ้นเวลาฝนตกกระทบจะดังกว่ามาก ซึ่งหลังคา Skylight หลังคาโปร่งแสง จะมีเสียงรบกวนน้อยจึงเหมาะสมกับ Community Mall มากกว่า รวมถึงแสงที่ตกระทบผ่าน หลังคาใส ประเภทดังกล่าวย่อมจะให้ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติดีกว่า
ที่ลาดกระบังนี้เป็นแห่งแรก ที่สอง The Paseo Town ที่สุขาภิบาลสาม และล่าสุดกับ The Paseo กาญจนาภิเษก ซึ่งจะมีสไตล์ที่แตกต่างจากสองแห่งแรกคือเน้นความเป็นญี่ปุ่นเป็น Japanese Town อย่างเช่นบริเวณทางเดินที่ได้แบบมากจากวันอาซากุสะ รวมถึงให้หลังคาโปร่งแสงทรงโค้ง เพื่อให้สอดรับกับธีมที่กำหนดไว้ ไม่ว่าจะเป็นทางเดินกึ่งเปิด การสร้างบ่อน้ำเลี้ยงปลาคาร์ฟ และการปลูกต้นได้ในที่ร่ม ที่ยังคงจำเป็นต้องมีการ Flow ของแสงธรรมชาติอยู่รวมถึงบรรยากาศที่ต้องนุ่มนวลมีชีวิตชีวา แต่หลังคาแบบ Metal Sheet ไม่สามารถตอบโจทย์นี้ได้
พูดถึงหลังคาโปร่งแสง มันก็ดัดแปลงได้หลากหลายรูปแบบอยู่นะ อย่างที่ใช้ในส่วนที่สองของ The Paseo Mall แห่งนี้ก็ถือว่าดีและเหมาะสม หากกล่าวถึงความคาดหวังในส่วนของ Skylight หลังคาโปร่งแสง ก็คงจะเป็นเรื่องการให้แสงธรรมชาติที่ไม่ถ่ายความร้อนมากเกินไป สำหรับพื้นที่ซึ่งอยู่ระหว่างรอการติดตั้ง Skylight หลังคาโปร่งแสง ขณะนี้เราได้เลือกรุ่นที่เย็นสบายมากกว่าโครงการที่ผ่านมา จึงมั่นใจได้ว่าผู้มาใช้บริการจะไม่ได้รับผลกระทบจากความร้อนของแสงอาทิตย์ตลอดการใช้บริการที่ The Paseo Mall
พูดถึงหลังคาโปร่งแสง ผมได้รับการแนะนำให้เลือกใช้รุ่นและยี่ห้อ “แอมเพิลไลท์” เนื่องจากเป็นแบรนด์ชั้นนำทีมีมาตฐานน่าเชื่อถือ เป็นที่ยอมรับจากผู้ออกแบบเจ้าของโครงการ ผู้ออแบบจะช่วยศึกษาคุณสมบัติและค่าความร้อนที่ส่องผ่านที่เหมาะสมมานำเสนอก่อนการใช้งานกับโครงการเหล่านี้ โดยเลือกชนิดที่สอดคล้องกับ Concept ของโครงการ
ผมมองว่า Community Mall ที่ดี ต้องถึงพร้อมและครบถ้วนในการเป็น One-Stop Service กล่าวคือ ต้องตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้บริการในทุกด้าน และไปให้ทิศทางเดียวกับโชว์รูมรถยนต์ที่เปิดควบคู่กันไป
Ampelite World Company Limited all rights reserved.Sitemap