Materials for the Future Ampeflow

จำนวนผู้เข้าชม : 6149

ในปัจจุบันธุรกิจโรงงานและคลังสินค้าให้เช่ากำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง จากกลุ่มผู้ผลิตบริษัทชั้นนำจากในประเทศไทย และนักลงทุนจากต่างประเทศ ดังนั้น แบบของโรงงานและคลังสินค้าสำหรับเช่า จึงต้องสามารถตอบโจทย์ความต้องการในการดำเนินงานทุกรูปแบบ โดยต้องคำนึงถึงเรื่องของขนาดสถานที่ตั้ง จุดยุทธศาสตร์ ระยะทางการจัดส่งที่สะดวก ความเพียบพร้อมจากวัสดุอาคาร รวมไปถึงรายละเอียดด้านระบบระบายอากาศและความปลอดโปร่งจากแสงด้วยเช่นกัน ดังนั้นการเลือกใช้วัสดุในการก่อสร้าง จึงจำเป็นที่จะต้องมีการเลือกสรร เฟ้นหาวัสดุชั้นดีเพื่อความคงทน ปลอดภัยตามหลักมาตรฐานสากลทุกสัดส่วนพื้นที่

บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรมในประเทศไทย ที่มุ่งเน้นการพัฒนาโรงงานสำเร็จรูปคุณภาพสูงพร้อมใช้เพื่อให้เช่า ที่มีหลากหลายขนาด และตอบสนองความต้องการในการใช้งานที่หลากหลายของลูกค้า ซึ่งพร้อมให้บริการในนิคมอุตสาหกรรมหลักๆ ของประเทศ รวม 18 แห่ง โดยมี ทีพาร์ค หรือ บริษัท ไทคอน โลจิสติคส์ พาร์ค จำกัด เป็นบริษัทในกลุ่มไทคอน ซึ่งมีธุรกิจหลักในการพัฒนาคลังสินค้าคุณภาพสูงพร้อมใช้ และโลจิสติกส์ พาร์ค ในระดับสากล ปัจจุบันคลังสินค้าของ TPARK ตั้งอยู่ในทำเลยุทธศาสตร์ 30 แห่งทั่วประเทศ นอกจากนี้ กลุ่มไทคอนยังให้บริการในการพัฒนาโรงงานและคลังสินค้าแบบ Built to Suit เพื่อรองรับความต้องการใช้งานที่เฉพาะเจาะจงของลูกค้าแต่ละรายอีกด้วย และด้วยประสบการณ์ที่ยาวนานกว่า 25 ปี จึงสามารถมั่นใจในความเป็นมืออาชีพทางด้านธุรกิจการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ได้อย่างไร้กังวล

คุณพีระพัฒน์ ศรีสุคนธ์ (Deputy General Manager) กล่าวถึงคอนเซ็ปต์การสร้างโรงงานและคลังสินค้าให้เช่าไว้ว่า กลุ่มบริษัทไทคอน เป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทโรงงานและคลังสินค้าให้เช่า เพื่อที่จะสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทุกกลุ่ม ปัจจุบันเราจึงมีการก่อสร้างคลังสินค้าเพิ่มขึ้น 200,000 ตาราเมตร และอาคาร-โรงงาน 100,000 ตารางเมตร ต่อปีตามกลยุทธ์ซึ่งคาดว่าจะมีการเติบโตขึ้นเรื่อยๆ

อาคารโรงงานและคลังสินค้าเป็นอาคารที่ถูกใช้งานหนัก ดังนั้นคุณภาพของวัสดุที่นำมาใช้ในการก่อสร้างจึงต้องมีคุณภาพสูงกว่าปกติทั่วไปตามท้องตลาด ซึ่งสิ่งสำคัญที่เราพิจารณาในการคัดเลือกวัสดุมาติดตั้งคือความแข็งแรงทนทานนอกเหนือจากความแข็งแรงทนทานแล้ว เรายังมีนโยบายที่ให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์พลังงาน รวมถึงความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยเหตุนี้เราจึงเลือกใช้วัสดุที่สอดคล้องกับคอนเซ็ปต์การเป็นอาคารเขียว อาทิ สีชนิด Low VOC ชุดสุขภัณฑ์รุ่นประหยัดน้ำ รวมถึงการประหยัดพลังงานของผลิตภัณฑ์ในการให้แสงสว่าง โดยปกติแล้วเราติดตั้งหลังคาโปร่งแสงภายในโรงงานอยู่ที่ 4 เปอร์เซ็นต์ โดยเลือกใช้หลังคาโปร่งแสงแอมเพิลไลท์รุ่น COOL LITE เป็นหลัก เพราะสามารถตอบโจทย์วัตถุประสงค์ในการใช้งานภายในคลังสินค้า เพราะช่วยลดความร้อนที่ส่งผ่านเข้าสู่ภายในตัวโรงงานได้อย่างดีเยี่ยม ขณะเดียวกันยังสามารถให้แสงสว่างผ่านเข้าสู่ภายในได้อย่างเป็น-ธรรมชาติ พร้อมทั้งเป็นวัสดุที่มีความทนทานเป็นพิเศษ จึงถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ตลอดจนเป็นแบรนด์ที่มีมาตรฐานสากล จึงสามารถสร้างความเชื่อมั่นในการใช้งานของโครงการในระยะยาว

นอกจากนี้เรายังคำนึงถึงผู้ปฏิบัติงานภายในตัวอาคาร โดยออกแบบให้อาคารมีการระบายอากาศที่ดี ซึ่งอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่เราเลือกใช้คือกล่องระบายอากาศแอมเพิลโฟลว์ ด้วยคลังสินค้าของเราบางอาคารมีขนาดใหญ่กว่า 5 หมื่นตารางเมตร ซึ่งบางทีอากาศไม่สามารถถ่ายเทได้อย่างทั่วถึง เราจึงจำเป็นต้องมีระบบระบายอากาศที่มีประสิทธิภาพสูง โดยเราเลือกใช้กล่องระบายอากาศสำเร็จรูปแอมเพิลโฟลว์ ที่ช่วยระบายอากาศร้อนและความชื้น รวมถึงฝุ่นละอองให้ถ่ายเทออกภายนอกอาคารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผลที่ได้รับคือภายในอาคารมีการไหลเวียนของอากาศดีขึ้น ทำให้ภายในเกิดภาวะเย็นสบาย คนทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมด้วยการติดตั้งสะดวกเพียงแค่ถอดหลังคาบางแผ่นออกก็สามารถติดตั้งได้ทันที ช่วยให้ประหยัดเวลาและการแก้ปัญหาเรื่องความร้อนภายในได้อย่างเต็มรูปแบบ

นับเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างแนวคิดจากทางบริษัทไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งให้ความสำคัญนอกเหนือจากประสิทธิภาพโรงงานอันทันสมัยแล้ว การตอบรับสถาปัตยกรรมสีเขียวที่กำลังเป็นกระแสในยุคปัจจุบันทั่วโลก ก็ได้ให้ความสำคัญกับรูปแบบดีไซน์อาคารเพื่อเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุด จากนโยบายเบื้องต้นที่เกี่ยวกับแนวคิด Eco Friendly ทางบริษัทเลือกใช้ผลิตภัณฑ์และวัสดุที่ไม่เป็นมลพิษ จึงทำให้สามารถคว้ามาตรฐานอาคารสีเขียว LEED Certified เป็นโรงงานสีเขียวให้เช่าแห่งแรกในประเทศไทย ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการใช้พลังงานกว่า 356,000 บาทต่อปี รวมถึงประหยัดการใช้น้ำกว่า 750 ลูกบาศก์เมตร ต่อปี ซึ่งเป็นแผนการพัฒนาองค์กรต้นแบบแห่งความยั่งยืนและใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมในอนาคตมากที่สุดตามหลักมาตรฐานสากลโลก