หลังคาเมทัลชีทสำหรับโรงงาน มีให้เลือกทั้งหมดกี่แบบ

จำนวนผู้เข้าชม : 364

หลังคาเมทัลชีทสำหรับโรงงาน มีให้เลือกทั้งหมดกี่แบบ

หลังคาเมทัลชีท (Metal Sheet) เป็นวัสดุมุงหลังคาที่ผลิตจากแผ่นเหล็กเคลือบสังกะสีผสมอลูมิเนียม 55% (Zinc-Aluminium 55%) นำมาขึ้นรูปลอน เพื่อใช้งานในด้านต่าง ๆ ตามขนาดความหนาของลอน ซึ่งมีคุณสมบัติทนทานต่อการกัดกร่อน ระบายความร้อนได้ดี น้ำหนักเบา รั่วซึมยาก ทำให้หลังคาเมทัลชีทเป็นที่นิยมในการนำมามุงหลังคาอาคาร และโรงงานต่าง ๆ โดยเฉพาะกับโรงงานอุตสาหกรรม

สำหรับหลังคาเมทัลชีทที่เลือกใช้กับโรงงานอุตสาหกรรม จะเลือกใช้ขนาดที่มีความหนา 0.40-0.50 และมีระยะแปไม่เกิน 1.5 เมตร เนื่องจาก มีความแข็งแรง และทนทานต่อสภาพแวดล้อมโดยรอบ ซึ่งบทความในวันนี้ แอมเพิลไลท์ จะมาแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับการเลือกหลังคาเมทัลชีทสำหรับโรงงาน ว่ามีให้เลือกกี่แบบ พร้อมคำแนะนำการติดตั้งหลังคาโรงงานอุตสาหกรรม

รูปแบบหลังคาเมทัลชีทสำหรับโรงงานแบ่งตามระบบการติดตั้ง

สำหรับการแบ่งรูปแบบหลังคาเมทัลชีทที่ใช้ติดตั้งมุงหลังคาโรงงานจะแบ่งตามระบบการติดตั้ง โดยแต่ละแบบมีคุณสมบัติแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น ความสะดวกในการติดตั้ง การป้องกันการรั่วซึมของน้ำฝน รวมไปถึงเรื่องของความสวยงามด้วย ซึ่งมีทั้งหมด 3 แบบ ดังนี้

• แบบระบบยิงสกรู (SELF DRILLING SCREW)

หลังคาเมทัลชีท ระบบยิงสกรู มีคุณสมบัติในการติดตั้งง่ายและสะดวก โดยสกรูจะยึดแผ่นเมทัลชีทติดกับโครงสร้างหลังคา มีความแข็งแรงทนทาน โดยหัวสกรูสามารถเลือกสีให้กลมกลืนกับแผ่นเมทัลชีทได้จึงเป็นที่นิยมใช้ติดตั้งหลังคาโรงงาน

• แบบระบบยึดล็อก (KLIP-LOCK)

หลังคาเมทัลชีท ระบบยึดล็อก หรือที่เรียกอีกอย่างว่าระบบขบล็อกเหมาะกับหลังคาลอนสูง เป็นประเภทการติดตั้งหลังคาที่ป้องกันการรั่วซึมของน้ำ และระบายน้ำฝนได้เป็นอย่างดี ทั้งยังเป็นระบบที่ไม่ทำให้เห็นสกรูบนหลังคา จึงมีความสวยงาม และเป็นที่นิยมไม่แพ้กัน

• แบบระบบรีดตะเข็บ (SEAM-LOCK)

หลังคาเมทัลชีท ระบบรีดตะเข็บ จะใช้การยึดล็อกแผ่นเมทัลชีทลงกับขาคลิปล็อกด้วยเครื่องรีดตลอดแผ่น ทำให้ไม่มีรอยต่อ นิยมใช้ติดตั้งกับหลังคาลอนสูง ช่วยระบายน้ำฝน และป้องกันการรั่วซึมได้ดี ทั้งยังดูสวยสบายตา เพราะสกรูถูกซ่อนอยู่ด้านล่างแผ่นเมทัลชีท

อย่างไรก็ตาม การเลือกแบบหลังคาเมทัลชีทสำหรับโรงงานอุตสาหกรรม ควรคำนึงถึงผลลัพธ์หลังการติดตั้งเป็นหลัก เนื่องจาก เป็นสาเหตุสำคัญของปัญหาน้ำรั่วซึม ที่อาจส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ หรือเครื่องจักรในโรงงานได้รับความเสียหาย รวมไปถึงการระบายความร้อนได้ไม่ดี ซึ่งอาจลดทอนอายุการใช้งานเครื่องจักร ส่วนความสะดวกในการติดตั้งถือเป็นผลพลอยได้ของช่างผู้ติดตั้ง โดยอาจให้ความสำคัญเป็นอย่างสุดท้าย

ปัจจัยในการเลือกติดตั้งหลังคาเมทัลชีทสำหรับโรงงาน

การเลือกใช้งานติดตั้งหลังคาเมทัลชีทสำหรับโรงงานควรคำนึงถึง 4 ปัจจัยต่อไปนี้ เพื่อให้โครงสร้างของโรงงานอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ ได้แก่

• ความคุ้มค่า

ความคุ้มค่า ถือเป็นเรื่องสำคัญข้อแรกในการติดตั้งหลังคาเมทัลชีทของโรงงานต่าง ๆ เพราะความแข็งแรงทนทานของโครงสร้างโรงงาน จะช่วยลดต้นทุนในการบำรุงรักษา อีกทั้งในปัจจุบันหลังคาเมทัลชีทก็มีราคาไม่แพง มาพร้อมกับคุณสมบัติที่เข้ากับโครงสร้างของโรงงาน จึงกลายเป็นตัวเลือกที่ผู้ประกอบการหลายคนนำมามุงติดตั้งเป็นหลังคา

• กิจกรรมภายใน

ประเด็นต่อมาที่ต้องให้ความสำคัญไม่แพ้กัน คือ กิจกรรมภายในโรงงาน เพราะพนักงานจากหลายส่วนต้องทำงานภายใต้หลังคา หากเลือกวัสดุมุงหลังคาที่ไม่ช่วยระบายความร้อน อาจทำให้พนักงานมีอาการเหนื่อยล้า และรู้สึกอึดอัดระหว่างทำงาน จนส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงาน ที่อาจลดลง และไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่องค์กรตั้งไว้ ดังนั้น การเลือกใช้หลังคาเมทัลชีทที่ระบายอากาศได้จึงเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องพิจารณาร่วมด้วย

• ปริมาณความร้อน

หากในส่วนของโรงงานมีอาคารสำนักงานตั้งอยู่ภายในร่วมด้วย แน่นอนว่าต้องมีการติดตั้งเครื่องปรับอากาศตามมา ดังนั้น การเลือกติดตั้งหลังคาที่มีการระบายอากาศได้ดี ไม่สะสมความร้อน จะช่วยให้ประหยัดพลังงานในการใช้ไฟฟ้า โดยไม่ทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนักจนเกินไป และช่วยลดการใช้พลังงานเกินความจำเป็น ซึ่งหลังคาเมทัลชีทที่มีคุณสมบัติในการคลายความร้อนได้ดี จึงเป็นทางเลือกที่เจ้าของโรงงานหลายคนเลือกใช้

• การระบายอากาศ

โครงสร้างของโรงงานที่ระบายอากาศได้ดี ไม่สะสมความร้อน จะช่วยยืดเวลาในการบำรุงรักษาเครื่องจักรให้ใช้งานได้นานมากขึ้น เนื่องจาก เครื่องจักรบางประเภทต้องควบคุมให้อยู่ในอุณหภูมิที่ไม่ร้อน หรือเย็นเกินไป

อีกทั้งการติดตั้งมุงหลังคาโรงงานที่ดีต้องป้องกันการรั่วซึมของน้ำฝนไม่ให้หยดลงมาสัมผัสกับเครื่องจักร เพื่อป้องกันการเกิดสนิม ดังนั้น การติดตั้งหลังคาเมทัลชีทที่มีคุณสมบัติระบายความร้อนได้ดี และป้องกันการรั่วซึมได้สูง นับว่าเป็นตัวเลือกการติดตั้งหลังคาโรงงานที่ผู้ประกอบการควรให้ความสำคัญด้วยเช่นกัน

หลังคาเมทัลชีทอาจไม่พอ เสริมแกร่งให้โรงงานด้วยหลังคาไฟเบอร์กลาส

แม้หลังคาเมทัลชีทจะมีคุณสมบัติครบถ้วนตรงตามความต้องการของผู้ประกอบการ หรือเจ้าของโรงงาน แต่หากโครงสร้างโรงงานที่ติดตั้งด้วยหลังคาเมทัลชีทอย่างเดียว อาจไม่เพียงพออีกต่อไปสำหรับโรงงานบางประเภท โดยเฉพาะโรงงานที่มีการใช้งานผลิตภัณฑ์สารเคมีในปริมาณมาก ที่อาจทำให้หลังคาเป็นสนิม และเกิดปัญหารั่วซึม จึงต้องได้รับการบำรุงรักษาทุก ๆ 3-5 ปี ไม่คุ้มค่าต่อการลงทุนระยะยาว

ดังนั้น เราขอแนะนำว่าควรติดตั้งหลังคาเมทัลชีทควบคู่ไปกับหลังคาไฟเบอร์กลาสจาก Ampelite เพื่อประสิทธิภาพของโครงสร้างโรงงานที่ยอดเยี่ยม โดยหลังคาไฟเบอร์กลาสของ Ampelite มีให้เลือกหลากหลายรุ่นด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น รุ่นหลังคาที่สะท้อนความร้อนได้ดี แต่ยังให้แสงสว่างได้ทั่วถึงอย่าง รุ่นวันเดอร์คูล ไออาร์ (WONDERCOOL IR) ที่มีประสิทธิภาพในการให้แสงส่องผ่านได้มากถึง 44% ในขณะที่ความร้อนส่งผ่านได้เพียง 20.2% เท่านั้น

หรือหลังคาไฟเบอร์กลาส รุ่น เคมบล็อค (ChemBlock) ที่ทนทานต่อการกัดกร่อนของสารเคมีได้ดี ลดปัญหาหลังคารั่วซึมเพราะเป็นสนิม เหมาะกับโรงงานที่มีการใช้งานสารเคมี เช่น โรงงานผลิตปุ๋ย โรงงานผลิตเกลือ โรงงานหลอมโลหะ โรงงานผลิตเยื่อกระดาษ โรงงานแปรรูปยาง โรงงานฟอกหนัง หรือแม้แต่โรงงานที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ติดกับทะเล แถมยังรับประกันนานสูงสุด 20 ปี คุ้มค่าต่อการลงทุนในระยะยาว และช่วยลดต้นทุนด้านพลังงานอีกด้วย

อย่างไรก็ดี สำหรับหลังคาไฟเบอร์กลาส รุ่น เคมบล็อค เป็นนวัตกรรมหลังคาที่พัฒนามาจากหลังคาเมทัลชีท และยังคงเอกลักษณ์เดิม ไม่ว่าจะเป็น น้ำหนักที่เบากว่าหลังคาประเภทอื่น และความสะดวกสบายในการติดตั้ง แต่เพิ่มข้อดีในเรื่องของการเก็บเสียง แม้ฝนจะตกหนักแค่ไหนก็ไม่รบกวนผู้ที่อยู่ใต้หลังคา

อีกทั้งยังระบายความร้อนได้ดี แต่ให้แสงสว่างจากธรรมชาติได้เต็มที่ และทนทานสารเคมี ทำให้อายุการใช้งานนานกว่าหลังคาเมทัลชีท เพราะฉะนั้น หลังคาไฟเบอร์กลาส รุ่น Chem Blok เป็นตัวเลือกในการติดตั้งหลังคาสำหรับโรงงานที่คุ้มค่าอย่างยิ่ง หากสนใจติดตั้งหลังคาไฟเบอร์กลาสจาก Ampelite สามารถติดต่อได้ที่ แผนกประสานงานฝ่ายขาย 082-782-6774 หรือติดต่อสำนักงานใหญ่ สาขากิ่งแก้ว 02-312-4300, 02-103-4490